กิตติพงศ์ เตชะพานิชกุล

AR เปลี่ยนเกมการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างไร

Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอุตสาหกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ CUBIC X คือบริษัทที่กำลังยกระดับกระบวนการพัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการนำ AR มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแก้ปัญหาที่ท้าทายต่างๆ

หัวใจสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จคือการได้รับข้อมูลป้อนกลับอย่างรวดเร็วและปรับให้ตรงตามข้อกำหนดที่ต้องการโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องยากเมื่อต้องทำงานกับลูกค้าต่างประเทศ เนื่องจากการส่งต้นแบบจริงไปกลับอาจใช้เวลานาน และไม่มีประสิทธิภาพ

แพลตฟอร์ม AR ของ CUBIC X แก้ปัญหานี้โดยให้นักออกแบบและลูกค้าสามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงอย่างแม่นยำสูง ลักษณะดิจิทัลของ AR ทำให้สามารถสร้างแบบจำลองการออกแบบหลากหลายได้โดยมีต้นทุนต่ำ เอื้อให้เกิดกระบวนการร่วมมือและการปรับจูนได้มากขึ้น

เมื่อแบบจำลองการออกแบบสุดท้ายได้รับการอนุมัติแล้ว ไฟล์เดียวกันที่ใช้ในแพลตฟอร์ม AR สามารถถ่ายโอนไปยังกระบวนการผลิตได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไฟล์เหล่านี้ไปใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อสร้างต้นแบบและตรวจสอบการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยการประยุกต์ใช้ AR CUBIC X สามารถลดรอบการออกแบบจากสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน ทำให้เร่งเวลาวางจำหน่ายสินค้าได้อย่างมาก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของเรายังช่วยให้ลูกค้าสามารถจำลองการวางผังพื้นที่ และการดำเนินงาน เพื่อให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จะเข้ากับพื้นที่คลังสินค้า ร้านค้า หรือยานพาหนะขนส่งอย่างไร สนับสนุนการวางแผนด้านการขนส่งได้ดียิ่งขึ้น

ความหลากหลายของแพลตฟอร์ม AR ของ CUBIC X ไม่เพียงแค่ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์และการแสดงภาพจำลองแบบวิศวกรรม เป็นโซลูชันครบวงจรสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม

สรุปได้ว่า ความจริงเสริมได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่ CUBIC X มุ่งสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน เร่งรอบการออกแบบ และผสานสู่กระบวนการผลิตได้อย่างราบรื่น ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้มาใช้ เราได้เสริมพลังให้ลูกค้านำแนวคิดนวัตกรรมของพวกเขาสู่ความสำเร็จด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำที่เหนือกว่า

หากต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์ม AR ของ CUBIC X สามารถไปที่ 

 เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

CUBIC X พลิกวงการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย AR

อชิรวิชญ์ คงรัสโร

การทำธุรกิจในโลกปัจจุบัน ทุกอย่างขับเคลื่อนแบบดิจิตอล พฤติกรรมผู้บริโภคย้ายไปอยู่บน online มากขึ้น การจะโดดเด่นก็อาจจะต้องเริ่มจากการมีข้อมูลของลูกค้าและนำเอาไปใช้ปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น เป้าหมายถึงเราจะนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการให้กับลูกค้าได้อย่างไร เพราะลูกค้าอาจจะไม่ได้บอกเราโดยตรงว่าเขากำลังมองหาอะไรอยู่ โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์​ เพราะลูกค้าสามารถที่จะออกจากเราไปได้ทุกเมื่อ การที่จะนำเสนอสิ่งที่โดนใจ และปิดการขายได้ จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกเราได้

หลังจากที่เรามีข้อมูลอยู่ในมือ เราก็ต้องเริ่มกระบวนการรักษาลูกค้าให้อยู่กับเราให้ได้ ซึ่งเราอาจจะเรียกว่า Customer Journey ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อแชมพูมา 1 ขวด ถ้าเรารู้ว่าในอีก 1 เดือนแชมพูที่เราใช้มันใกล้จะหมด การได้รับข้อเสนอ ส่วนลดในจังหวะนี้ ก็จะได้ผลมากกว่าที่ส่งข้อเสนอไปหลังจากที่เราพึ่งซื้อแชมพูมา เพราะยังไม่มีความต้องการในการซื้อใหม่ และมันจะยิ่งดีกว่าถ้าลูกค้ามาทักเราในช่องทางใดๆ ยกตัวอย่างเช่นไลน์ และเราสามารถรู้ได้ว่าคนนี้เคยมีประวัติการซื้อกับเรามากแค่ไหน ก็จะทำให้เราสามารถนำเสนอสิ่งที่เค้าต้องการได้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้เราเรียกว่า Personalize Campaign

ข้อมูลที่อยู่ในมือ เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ ต้องนำเอามาใช้ประโยชน์ได้

เคสที่มีการนำเอาเครื่องมือมาใช้ในโลกของ offline ก็มีอยู่ เช่นการให้ sales ของเราไปติดตามลูกค้า แล้วถ้าเราติดตามได้ว่า sales ของเราไปพบใครมาแล้วบ้าง ปิดการขายใครได้บ้าง ใครที่ยังค้างอยู่ ข้อมูลเหล่านี้ ก็จะนำมาให้ดูเป็นภาพรวมได้ว่า ขั้นต่อไป เราจะดำเนินธุรกิจอย่างไรต่อ

การเข้ามาถึงของ AI ก็จะทำให้เราขายได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถเชื่อมโยงข้อมูลอย่างอื่น เช่นประวัติการเข้าชม แล้วสามารถประมวลผล เชื่อมโยงเพื่อนำเสนอสิ่งที่ใกล้เคียงกับความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้น 

สิ่งที่เราจำเป็นต้องเตรียมในยุคนี้ คือการเตรียมข้อมูลให้ถูก จัดระเบียบข้อมูลให้ดี เราก็จะสามารถนำเอาข้อมูลมาใช้ได้ในตอนที่จำเป็น

ConnectX ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถเข้ามาช่วยในการดูแลข้อมูลของลูกค้าได้ สนใจ ConnectX สามารถ click ได้ 

เทคนิคมัดใจลูกค้า ใช้ข้อมูลอย่างไร ถึงจะขายได้ขายดี

ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต

ในยุคดิจิทัลที่การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงสามารถทำได้ผ่านหลายแพลตฟอร์ม ทีวีดิจิทัลจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กร, ลดต้นทุน, สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง, ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ, และร่วมมือกับแพลตฟอร์ม OTT โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงใจผู้บริโภค เพิ่มฐานความยั่งยืนในอุตสาหกรรมสื่อที่เติบโตและแข่งขันกันอย่างรุนแรง

กสทช. ทราบดีถึงความสำคัญนี้ และจึงมุ่งเน้นการสนับสนุนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะเนื้อหาสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งการผลิตคอนเทนต์ร่วมกับต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสสู่การสร้างผลผลิตที่สร้างสรรค์และตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่ ด้วยความหวังที่จะเพิ่มพลังสู่ธุรกิจสื่อไทยในการแข่งขันระดับสากลมากขึ้น จึงให้การสนับสนุนผ่านทุกขั้นตอนการผลิตและได้ยืนยันฐานะการเป็นผู้สนับสนุนใหญ่ของธุรกิจสื่อไทย

ทั้งนี้ แม้ว่าแพลตฟอร์ม OTT จะได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ แต่ทีวียังคงมีบทบาทสำคัญเป็นแหล่งข่าวสารและข้อมูลที่สามารถยึดมั่นในสังคมไทย ด้วยเหตุนี้ กสทช. จึงมองว่าการสนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพของคอนเทนต์ทีวีไทยเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคตของธุรกิจสื่อในประเทศ

จากทีวี สู่ออนไลน์ โทรทัศน์ไทยจะไปต่ออย่างไรภายใต้การเปลี่ยนแปลง

ปัญญวัฒน์ แสงมาศ

Infrastructure as Code (IAC) คือเทคนิคในการจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ ไม่ต้องยุ่งยากกับการคลิกตามหน้าจอ แต่ทุกการดำเนินการจะอยู่ในรูปแบบของโค้ดหรือสคริปต์. ความหมายก็คือการตั้งค่าหรือแก้ไขทรัพยากรบนคลาวด์นั้นสามารถทำซ้ำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว, ไม่ต่างจากการเขียนคำสั่งเพื่อสร้างสิ่งต่างๆ แล้วให้เครื่องมือทำงานในส่วนที่ยากขึ้น.

เครื่องมือที่รองรับ IAC เช่น Terraform หรือ AWS CloudFormation ได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ด้วยความง่าย อาทิเช่น การสร้างเซิร์ฟเวอร์, ฐานข้อมูล หรือระบบเครือข่าย. คิดถึงมันเหมือนกับการมีผู้ช่วยส่วนตัวที่คุณสั่งการผ่านโค้ด, แล้วมันจะสร้างทุกอย่างตามที่คุณต้องการ.

สำหรับธุรกิจหรือทีมงานที่ต้องการเริ่มต้นใช้ IAC, ควรเริ่มจากการเข้าใจวัตถุประสงค์และความต้องการของธุรกิจ และคัดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม การศึกษาและปฏิบัติตามทิศทางที่ดีที่สุดในการใช้ IAC จะช่วยเสริมศักยภาพและป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการจัดการโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์

Infrastructure Automation ทำงาน Cloud ให้เป็นเรื่องง่าย

ศรายุทธ อุตสาคู

การปรับปรุงศูนย์ข้อมูล (Data Center Modernization) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลขององค์กรให้ทันสมัย และคุ้มค่ายิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่น การเริ่มต้นใช้งานระบบคลาวด์ หรือ จำลองเสมือนเซิร์ฟเวอร์ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการประหยัดต้นทุนแต่ยังมีคุณประโยชน์ในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของข้อมูลด้วย

ด้านประโยชน์ของการปรับปรุงศูนย์ข้อมูล องค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงความคล่องตัวในการบริหารจัดการข้อมูลหรือเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ โดยเฉพาะผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยที่หลากหลายและทันสมัย ทั้งนี้ทั้งนั้น การปรับปรุงศูนย์ข้อมูลยังมีความท้าทายในเรื่องของความซับซ้อนทางเทคนิคและขาดความเข้าใจในประโยชน์และวิธีการดำเนินการ

ทั้งนี้ แม้จะมีความท้าทาย การปรับปรุงศูนย์ข้อมูลยังคงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับองค์กรมากมาย หากเทียบเท่ากับการจัดห้องเก็บของในบ้าน การย้ายข้อมูลไปที่ระบบคลาวด์จะทำให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา เรื่องนี้ไม่ได้เป็นข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยประหยัดเงินและทรัพยากรขององค์กรในระยะยาว ในการรองรับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วและหลากหลาย และที่สำคัญคือ การปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูลและระบบทั้งหมดในองค์กร

Data Center Modernization จัดเก็บข้อมูลยุคนี้ต้องทำยังไง

ลิษา เลาหกรวัส

ปัจจุบัน "ตัวละครเสมือนจริง" หรือ Virtual Character ได้กลายเป็นอีกหนึ่งประเภทของคอนเทนต์ที่ทั้งน่าสนใจและมีผลต่อหลากหลายธุรกิจ และสังคมออนไลน์ การที่ตัวละครเหล่านี้มีบทบาทและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ทำให้เราสามารถจำแนกประเภทของตัวละครเสมือนจริงได้ 4 ประเภทหลัก ได้แก่ Virtual Star, Virtual Spokesperson, Virtual Model และ Mascot ซึ่งแต่ละประเภทนั้นมีคุณลักษณะเฉพาะที่ทำให้โดดเด่นและมีสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ให้กับผู้ใช้งาน

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ประเภท "Virtual Star" หมายถึงตัวละครที่มีบุคลิกและเรื่องราวที่เป็นของตัวเอง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ชมและสร้างฐานแฟนคลับ ในขณะที่ "Virtual Spokesperson" และ "Virtual Model" สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์และโปรโมตสินค้าหรือบริการ ส่วน "Mascot" จะเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์หรือองค์กรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่จดจำและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค

นอกจากนี้ ยังมีประเภทย่อยของตัวละครเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นตามลักษณะหรือวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น Virtual Influencer, Virtual Assistant, Virtual Customer Service และ Virtual Entertainment การจัดประเภทของ Virtual Character นี้ยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และมุมมองของผู้จัดประเภท ซึ่งทำให้ตัวละครเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น

Virtual Character คนจริงหรือ AI

ธรรมสรณ์ หาญผดุงกิจ

ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นเครื่องมือที่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมหลายๆ แขนง ด้วยความสามารถในการทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ, AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ และเข้าใจลูกค้าได้เร็วขึ้น แต่สำหรับคนทั่วไป, การเข้าใจ AI ยังคงเป็นท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อเจอกับความซับซ้อนของมัน.

ทว่า ด้วยการประยุกต์ใช้ Explainable AI, เราจะสามารถทำให้ AI ไม่ซับซ้อนและเข้าใจได้ง่ายขึ้น Explainable AIช่วยอธิบายเหตุผลและวิธีการทำงานของ AI ในภาษาที่ทุกคนเข้าใจ ซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นใจในการใช้ AI และเข้าใจว่ามันทำงานยังไง.

แนวคิด Explainable AI หรือ AI ที่สามารถอธิบายได้, เป็นตัวปฏิวัติในยุคดิจิทัล ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจเหตุผลในการตัดสินใจของ AI ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการในหลายอุตสาหกรรม ด้วย Explainable AI, ธุรกิจสามารถยืนยันความถูกต้องของผลลัพธ์ และเพิ่มความไว้วางใจใน AI ทำให้การนำไปใช้ประโยชน์ในธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Explainable AI ที่มาที่ไป AI ตอบได้

ธารินทร์ จงประเจิด

CPaaS (Communication Platform as a Service) คือบริการที่ปฏิวัติการสื่อสารแบบออนไลน์ โดยช่วยให้นักพัฒนาธุรกิจสามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ, อีเมล, การโทร หรือวิดีโอคอล โดยไม่ต้องลงทุนในการพัฒนาระบบการสื่อสารด้วยตนเอง ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากจะมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการแล้ว CPaaS ยังมีความปลอดภัยสูงโดยผู้ให้บริการทั่วไปมักจะรวมมาตรการป้องกันข้อมูลสำคัญ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล, การตรวจสอบความถูกต้องแบบสองปัจจัย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมข้อมูลของตนได้ เช่น เลือกรับหรือปฏิเสธการติดต่อสื่อสารจากผู้ให้บริการ ทำให้การสื่อสารผ่าน CPaaS เป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณไม่ได้ถูกส่งต่อหรือถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจต่างๆในยุคปัจจุบัน อาทิ อีคอมเมิร์ซ, โรงพยาบาล, และธุรกิจประกันภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อความแจ้งเตือนและบริการต่างๆ แบบเรียลไทม์ นอกจากความสะดวกและประสิทธิภาพแล้ว ความเชี่ยวชาญและความเสถียรของระบบยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้บริการ เพื่อให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

CPaaS พลิกโฉมการสื่อสารยุคดิจิทัล

วารัชญ์ วงศ์ไพโรจน์

การสังเกตการณ์ระบบ (Observability) คือความสามารถในการเข้าใจสถานะและพฤติกรรมของระบบจากข้อมูลที่ได้จากการมอนิเตอร์ระบบ หรือจากผลลัพธ์ที่ระบบแสดงออกมา เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุหลักของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นกับระบบได้อย่างรวดเร็ว การสังเกตการณ์ระบบไม่เพียงแค่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจถึง "ทำไม" ปัญหานั้นถึงเกิดขึ้น

การสังเกตการณ์ระบบมีหลักการที่ชัดเจน ประกอบด้วยการเก็บข้อมูลหลักสามประเภท: ข้อมูลล็อก (Log data) ซึ่งเป็นบันทึกเหตุการณ์ในระบบ, ข้อมูลเมตริก (Metric data) ที่วัดประสิทธิภาพและสถานะของระบบ และ ข้อมูลเทรดซิ่ง (Telemetry data) ซึ่งช่วยเราทำความเข้าใจถึงการทำงานและพฤติกรรมของระบบ เมื่อเรามีข้อมูลเหล่านี้ เราสามารถทำการวิเคราะห์ และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเน้นไปที่การสังเกตการณ์ระบบเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการประกันคุณภาพและความพร้อมใช้งานของระบบไอที เพราะไม่เพียงช่วยในการแก้ปัญหาแต่ยังช่วยในการพัฒนาประสิทธิภาพ และปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การสังเกตการณ์ระบบ (Observability) เป็นเครื่องมือที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม และควรถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนโดยสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่างๆควบคู่กันไป เช่น ประเภทของข้อมูลที่ต้องการรวบรวม ปริมาณข้อมูลที่ต้องการเก็บ และความซับซ้อนของระบบ เป็นต้น

Observability มองให้ทะลุ ดูแลให้ทัน

เก่งกาจ ทัฬหสายทอง

เชษฐ​ สุทธิธนานนท์

ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามาเต็มรูปแบบ OTT (Over-the-Top) ได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอนเทนต์วิดีโอผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องผ่านระบบโทรทัศน์แบบดั้งเดิม สร้างประสบการณ์การรับชมที่เน้นความสะดวกสบายและคุณภาพยิ่งขึ้น การมาของ OTT ไม่เพียงแต่นำเสนอแค่ความสะดวกเท่านั้น แต่ยังนำเสนอตัวเลือกการใช้งานที่หลากหลาย เช่น AVOD สำหรับใช้งานฟรีแต่จะมีโฆษณาแทรกระหว่างการรับชม และ SVOD ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนหรือรายปีเพื่อรับชมคอนเทนต์โดยไม่มีการขัดจังหวะด้วยโฆษณาทำให้ผู้รับชมได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดการใช้งาน

การรับชมวิดีโอผ่าน OTT ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนไป โดยตลาด OTT ยังมีโอกาสสำหรับผู้เล่นใหม่ ที่สามารถนำเสนอ

คอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม หรือสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ OTT ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่จำกัดเพียงแค่ธุรกิจความบันเทิงเท่านั้น หากแต่ยังสามารถนำไปใช้สำหรับการศึกษาออนไลน์, การฝึกอบรม, และการทำงานร่วมกันของทีมงานที่กระจายตัวทั่วโลก โดยเน้นที่ความสะดวกสบายและความสามรถในการเข้าถึงได้ตลอดเวลา

เทคโนโลยี OTT ถือเป็นหัวใจสำคัญของยุคดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการรับชมของผู้บริโภคในยุคนี้ การที่ผู้ให้บริการ OTT สามารถจับตาแนวโน้มของตลาด, พัฒนาคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการ, และนำ AI, AR, และ VR เข้ามาประยุกต์ใช้, ไม่เพียงแต่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาวด้วย นอกจากนั้น การมีการร่วมมือหรือพาร์ทเนอร์ชิพกับธุรกิจในสายอื่น ๆ ย่อมเป็นโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มฐานลูกค้าให้กับองค์กรทำให้สามารถสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรม OTT ได้

Over-The-Top เทคโนโลยีเพื่อ Content ในอนาคต

วรุฒ กฤษรุ่งเรือง

ข้อมูลท่อ (Data Pipeline) เป็นกลไกที่มีบทบาทสำคัญในการดึง ประมวล และโอนย้ายข้อมูลจากหลายแหล่งต้นทางให้ถึงมือผู้ประกอบการและผู้บริหารในการตัดสินใจทางธุรกิจ กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ทั้งหมดทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย และนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

คำว่า ETL และ ELT อาจไม่คุ้นหูสำหรับบางคน แต่สำหรับผู้ที่ทำงานในด้านข้อมูลนั้น 2 คำนี้เป็นกระบวนการที่สำคัญและมีความแตกต่างทางเทคนิคกันแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งาน โดย ETL คือการดึงข้อมูล (Extract), แปลงข้อมูล (Transform), และโหลดข้อมูล (Load) ไปยังคลังข้อมูล เพื่อวิเคราะห์และแชร์ข้อมูลทั่วไป. ในทางกลับกัน, ELT มักใช้ในกระบวนการที่มีการดึงข้อมูลมาก่อน โหลดข้อมูล, และทำการแปลงที่ปลายทาง

การเลือกเครื่องมือสำหรับสร้างข้อมูลท่อนั้นต้องพิจารณาตามความต้องการของธุรกิจ ดังนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยี เช่น mase AI, Airflow, หรือ Spark ควรอ้างอิงจากประสิทธิภาพ ความสามารถ และความเป็นมิตรกับผู้ใช้ ในบางกรณี องค์กรอาจเลือกใช้ Cloud Data Fusion, Amazon Kinesis หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะ เพื่อสร้างข้อมูลท่อที่มีประสิทธิภาพและเป็นมูลค่าทางธุรกิจและเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการใช้งาน Machine Learning ในอนาคต

Data Pipeline ศิลปะของการจัดการข้อมูล

อรรัมภา ตรีรยาภิวัฒน์

การใช้ Solar Cells ภาคธุรกิจนั้นเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความคุ้มค่าในการลงทุน โดยที่ Solar Cells สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายทางไฟฟ้าและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ

แม้ว่า Solar Cells จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ธุรกิจควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการใช้ไฟฟ้าอย่างไม่สม่ำเสมอ หรือต้องการที่จะติดตั้งระบบแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีผลต่อระยะเวลาในการคืนทุน นอกจากนี้ยังควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความแม่นยำว่าการติดตั้งจะเป็นไปตามแผนและได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

สรุปแล้วการติดตั้ง Solar Cells สำหรับภาคธุรกิจนั้นมีความคุ้มค่าและสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่การตัดสินใจควรมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ครบถ้วนและได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมั่นคง รอบด้านและประสบความสำเร็จ

Solar Cells คุ้มจริงไหม

ชวฤทธิ์ โชติกุลพิศาล

การปรับปรุงและวิเคราะห์กระบวนการทำงานภายในองค์กรด้วยเทคโนโลยี Process Mining และ AI เป็นสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถที่สูงของ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อนจำนวนมากและรวดเร็ว และยังค้นหาแนวโน้มที่อาจจะถูกมองข้ามไปด้วยการวิเคราะห์ด้วยมนุษย์ ทำให้เราสามารถหาจุดที่ควรปรับปรุงภายในกระบวนการทำงานได้อย่างเห็นได้ชัด

เทคโนโลยี Process Mining ช่วยในการรวบรวมข้อมูลและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในระบบงานอย่างละเอียด และนำเสนอรูปแบบการทำงานที่น่าสนใจสำหรับองค์กร การมีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเมื่อผสมผสานกับ AI จึงทำให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจขององค์กรมีประสิทธิภาพครอบคลุมและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การปรับปรุงและแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

สรุปว่า การนำเทคโนโลยี Process Mining และ การรวม AI กับเครื่องมือวิเคราะห์และแนวทางอื่นๆ เข้ามาใช้งานภายในองค์กรและควบคุมอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแค่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล และให้บริการที่ดีและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืนในระยะยาว

Process Mining with AI กระบวนการที่ว่ายาก ยังแพ้ทาง AI

ภาณุพงศ์ จันทกลาง

ในโลกธุรกิจและเทคโนโลยีระบบสารสนเทศปัจจุบัน การเลือกสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ (Software architecture) ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้มีผลต่อประสิทธิภาพและความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจ สถาปัตยกรรมแบบโมโนลิธ (Monolithic architecture) จัดเป็นแบบที่รวมทุกส่วนของระบบเข้าด้วยกันในระบบเดียว มีความเรียบง่ายและเหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นมาก ซอฟต์แวร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมนี้มักมีการพัฒนาและบำรุงรักษาที่ง่าย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการที่คงที่และมีความสำคัญในเรื่องความรวดเร็วของการสร้างและใช้งานซอฟต์แวร์

อย่างไรก็ตาม สถาปัตยกรรมแบบไมโครเซอร์วิส (Microservices architecture) มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับขนาดได้อย่างอิสระ 

แต่มีความซับซ้อนในการจัดการและความต้องการการป้องกันความปลอดภัยเพิ่มเติม ที่มากและซับซ้อนขึ้น สำหรับธุรกิจที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวอย่างรวดเร็ว สถาปัตยกรรมนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะทำให้ง่ายต่อการปรับปรุงและเพิ่มสมรรถนะของระบบ นอกจากนี้ การใช้ API และ Middleware ช่วยให้การพัฒนาและปรับเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของระบบเป็นไปอย่างอิสระ และการนำเอา Design Patterns และการออกแบบฐานข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้ระบบมีมาตรฐานและสามารถปรับใช้ใน

โปรเจ็คต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

ดังนั้น สำหรับผู้บริหารและผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ การเลือกสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ โดยคำนึงถึงความต้องการและวัตถุประสงค์ของธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวของซอฟต์แวร์ในอนาคต การคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้และการปรับสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมจะเป็นประโยชน์ในการสร้างและดำเนินการโครงการซอฟต์แวร์ให้ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว

Monolith VS Microservices ใครจะอยู่ใครจะไป

ธนธิป บุณยกิดา

คมเดช บุญแท้

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีคลาวด์กลายเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ซีแนป (CNAP) ขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกมิติของแอปพลิเคชันบนคลาวด์ ตั้งแต่การจัดการความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐาน, การป้องกันความปลอดภัยสำหรับคอนเทนเนอร์ ไปจนถึงความปลอดภัยของโค้ด ซีแนปมีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ ภายใต้เครื่องมือต่างๆบนแพลตฟอร์ม เช่น CISP, CWPP, CREM, CI/CD และ CARC

ถึงแม้ว่า การใช้งานคลาวด์จะเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล แต่การรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยหลังจากตั้งไฟร์วอลล์ "Cloud Security Posture Management" หรือ "CSMP" ทำหน้าที่เป็นหัวใจของความปลอดภัยบนคลาวด์, ช่วยตรวจสอบคอนฟิก, ตรวจจับการเปลี่ยนแปลง, ประเมินความเสี่ยง และป้องกันข้อมูลจากการรั่วไหล, ทำให้องค์กรมีความมั่นใจและยืนยันความปลอดภัยในการใช้งานคลาวด์ตามมาตรฐานที่กำหนด

ความปลอดภัยไซเบอร์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ด้วยหลักการ "Security by Design" และการนำ "DevSecOps" มาประยุกต์, เราสามารถรับประกันได้ว่าแอปพลิเคชันของเรามีการป้องกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ความร่วมมือจากทีมปฏิบัติการในการติดตาม และตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยจะช่วยในการป้องกันช่องโหว่และตอบสนองต่อความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แอปพลิเคชันของคุณยืนหยัดและปลอดภัยต่อทุกการโจมตี

เจาะลึก CNAPP เพราะ cloud security เป็นเรื่องของทุกคน

ปฐมพร วิมลเก็จ

สุรเชษฐ อนันต์จรัสชาติ

เทคโนโลยี SASE หรือ Secure Access Service Edge กำลังดึงดูดความสนใจจากองค์กรทั่วโลกด้วยความสามารถในการปรับปรุงและบูรณาการระหว่างเครือข่ายและความปลอดภัยผ่านคลาวด์ที่ผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ความสามารถในการบริหารจัดการเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน SD-WAN ทำให้สามารถเชื่อมต่อผู้ใช้จากทุกที่ทุกเวลาด้วยความปลอดภัยที่เข้มงวด อนึ่ง เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพลังการเชื่อมต่อเครือข่ายและความเร็ว แต่ยังช่วยในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งในและนอกพื้นที่คลาวด์

SASE ให้ความสามารถในการกำหนดนโยบายความปลอดภัยที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้ใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ จนถึงการกรองทราฟฟิกเครือข่ายเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่การใช้งาน คุณสมบัติด้านความปลอดภัยอย่าง SWG, CASB, และ ZTNA ช่วยให้องค์กรมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและทรัพยากรที่สำคัญ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลขององค์กรได้

ในยุคที่การทำงานจากระยะไกลและการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่กลายเป็นความปกติ SASE กลายเป็นศูนย์กลางของการรักษาความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความสามารถในการปรับขนาดเครือข่ายได้ตามความต้องการ ทั้งยังสนับสนุนการทำงานแบบไร้ขอบเขตที่ปลอดภัยสำหรับองค์กรที่มีพนักงานทำงานอยู่หลายสถานที่ ในทำนองนี้ SASE ทำให้การบริหารจัดการความปลอดภัยและเครือข่ายในองค์กรกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

SASE เทคโนโลยีสำหรับการทำงานยุคใหม่

มงคล ทองไกรแก้ว

การใช้ Kubernetes เพื่อจัดการและรันแอปพลิเคชันแบบคอนเทนเนอร์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ทำให้ธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ต้องตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานหรือ "best practices" ของ Kubernetes ที่เน้นไปที่ความปลอดภัย, ความมั่นคง และประสิทธิภาพ องค์กรสามารถมั่นใจได้ว่างานจะมีประสิทธิภาพและจะเป็นการใช้งานที่เต็มควาสามารถ

ด้านความปลอดภัย Kubernetes ควรมีการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอย่างระมัดระวัง โดยไม่ควรเก็บใน Kubernetes secret และควรมีการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะที่จำเป็น และมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

ส่วนด้านความมั่นคง การกำหนด health check และการกำหนดขีดจำกัดสำหรับคอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันการใช้งานทรัพยากรที่มากเกินความจำ จะทำให้แอปพลิเคชันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆได้

ซึ่งนอกจากนี้ การใช้เครื่องมือประยุกต์ยุคใหม่เช่น GitOps ทำให้การจัดการและปรับแต่ง Kubernetes กลายเป็นเรื่องที่สะดวกและเรียบง่ายมากขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลการตั้งค่าใน Git repository ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างทีมและการสื่อสารกับคลัสเตอร์ Kubernetes มีประสิทธิภาพ ทำให้งานลดความซับซ้อนและส่งผลลัพธ์ที่ดีขึ้นให้กับองค์กร

K8s Pro Tips จัดการ Kubernetes ให้ดีทำยังไง

ดำรงศักดิ์ รีตานนท์

เครื่องมือ "Vault" คือเครื่องมือชั้นนำที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการข้อมูลลับหรือ "secrets" ในรูปแบบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน, คีย์การเข้ารหัสลับ หรือข้อมูลที่มีความคุ้มครองสูง Vault พร้อมด้วยคุณสมบัติเด่นๆ เช่น การควบคุมการเข้าถึงให้เฉพาะกับผู้ที่ได้รับอนุญาต, การตั้งเวลาหมดอายุของความลับ และระบบการกู้คืนข้อมูล

ด้วยความสามารถที่หลากหลายของ "Vault" ผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้งานได้กับการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์, ฐานข้อมูล, API และซอฟต์แวร์ต่างๆ โดยมีความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล และเมื่อพิจารณาเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ไม่หยุดนิ่งและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "Vault" จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทุกองค์กรควรมีเพื่อการป้องกันความปลอดภัยขององค์กรได้อย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ ในสังคมดิจิทัลที่วันนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น เด็กและผู้สูงอายุมักเป็นเป้าหมายที่เสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเลือกใช้เครื่องมือเช่น "Vault" ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันข้อมูลขององค์กร แต่ยังสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทุกกลุ่มอายุ โดยการประสานงานป้องกันและการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยสำหรับกลุ่มเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

HashiCorp Vault ถึงเวลาจัดการความลับ

นนทนะ อนุเคราะห์ดิลก

SOAR (Security Orchestration, Automation, and Response) เป็นเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยของระบบในองค์กรที่รวมการประสานงาน, การทำงานอัตโนมัติ, และการตอบสนองเรียลไทม์เพื่อจัดการภัยคุกคามในระบบ IT อย่างรวดเร็ว โดยลดขั้นตอนการตรวจสอบด้วยมนุษย์ พร้อมช่วยเสริมสร้างการทำงานของทีม IT ให้มีประสิทธิผลและตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัล

การนำ SOAR มาประยุกต์ใช้ในองค์กรควรพิจารณาความเหมาะสมกับกระบวนการทำงาน, เป้าหมายการใช้งาน, เทคโนโลยีปัจจุบัน, และงบประมาณที่กำหนด ความสำเร็จในการประยุกต์ใช้ SOAR ยังขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและอบรมบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้ SOAR จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร และสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามในระบบ IT อย่างเต็มรูปแบบ

SOAR จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการตอบสนองภัยคุกคาม การวางแผนและการนำเข้าใช้ SOAR ที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้องค์กรสามารถเฝ้าระวังและจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SOAR งานลด เวลาเพิ่ม 

สฤษรัตน์ จิรกุลพรชัย

แนวโน้มการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศไทยส่งเสริมให้เราต้องปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการจริงของตลาด รวมถึงการส่งเสริมความรู้และทักษะที่จำเป็นในการเตรียมตัวสู่สายอาชีพเพื่อให้เยาวชนมีความพร้อมในการแข่งขัน พร้อมส่งเสริมแนวคิดและสุนทรียภาพที่จะสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

ด้วยแนวคิดของ "ผู้ประกอบการภายในองค์กร" หรือ intrapreneur เป็นการส่งเสริมความมุ่งมั่นและความรู้สึกเป็นเจ้าของในงานของพนักงาน อนุญาตให้สร้างนวัตกรรมและร่วมมือพัฒนาองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้สึกที่มีส่วนร่วมและได้รับความไว้วางใจจากองค์กรจะช่วยสร้างความผูกพันและความภาคภูมิใจในงานเพิ่มขึ้น แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง 

แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานควบคู่กันไปในอนาคต

อีกทั้ง เมื่อพูดถึงการปรับปรุงศักยภาพบุคคลากรในวงการเทคโนโลยี การทำงานร่วมกันของภาคการศึกษา, ภาครัฐ, และภาคเอกชน กลายเป็นแกนหลักที่สำคัญสู่ความสำเร็จ การร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่จะรองรับความต้องการแรงงานที่มีคุณภาพในเศรษฐกิจ แต่ยังรับประกันว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศจะสามารถก้าวหน้าและแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมั่นคง

Tech Talent Ecosystem คนเทคปั้นได้ ต้องมองเกมให้ขาด

ชยพร ตันติสุขารมย์

การศึกษาในยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้เราสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางช่วยให้สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนมีโอกาสเข้าถึงความรู้ได้อย่างสะดวกสบาย โปรแกรมและแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์เช่น Zoom และ Google Classroom เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำให้การเรียนรู้และการสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การศึกษาในยุคปัจจุบันมีความยืดหยุ่นและไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้น

EdTech หรือเทคโนโลยีทางการศึกษานั้น ได้ยกระดับมาตรฐานการเรียนการสอนด้วยเนื้อหาคุณภาพสูง ด้วยความฉลาดของ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาแต่ละเนื้อหาสามารถปรับเปลี่ยนไปให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ส่งผลให้การเรียนการสอนมีความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพมากและสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ยุคดิจิทัลไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอน แต่ยังเป็นโจทย์ให้กับการศึกษาที่ต้องตอบสนองความต้องการทักษะในอนาคต ด้วยบทบาทของ EdTech ที่สร้างมาตรฐานการศึกษาคุณภาพ ผู้เรียนจึงได้รับประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและตรงตามความต้องการ ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีส่วนเสริมในการวัดผลและการประเมินนักเรียนได้เสริมสร้างความเชื่อถือและความแม่นยำ ทำให้การศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงสู่ความต้องการของยุคดิจิทัล

How Technology Disrupts Educations ก้าวทันโลกโตทันเทคโนโลยี

อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์

ศิลปะของการอยู่กับคนคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและราบรื่นทั้งในที่ทำงานและในชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะในยุคโควิดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงานจากที่บ้านและการสื่อสารออนไลน์มากขึ้น ซึ่งศิลปะของการอยู่ร่วมกันจะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และคนรอบข้างได้ดียิ่งขึ้น

เคล็ดลับของศิลปะนี้เกี่ยวข้องกับการรู้จักและเข้าใจตนเองในทุกมิติ การเป็นตัวของตัวเอง การเคารพผู้อื่น การแก้ไขความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ การเข้าใจความต้องการและความรู้สึกของผู้อื่น เพื่อสร้างการปฏิสัมพันธ์ที่มั่นคงและแข็งแกร่งกับทุกคนในทีม และสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตรและเปิดกว้าง ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความสัมพันธ์ในองค์กรได้ยาวนาน

ยุคโควิดนำมาซึ่งความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรคือการสร้างและรักษาวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรเอง โดยวัฒนธรรมเป็นฐานความเชื่อ, ค่านิยม, และพฤติกรรมที่ผู้คนในองค์กรแสดงออกมา ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและเป็นต้นแบบจากผู้นำในทุกระดับเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่น และรองรับความหลากหลายของบุคคล ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ไม่เพียงแต่จะสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับองค์กร แต่ยังเป็นแรงจูงใจในการทำงานและพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

The art of people จะอยู่กับคนก็ต้องมีชั้นเชิง 

เต็มภูมิ ชัยวัฒนายน

การใช้งาน Multi Cloud กำลังรับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่มองหาวิธีเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของธุรกิจ การใช้ Multi Cloud ไม่เพียงแต่ช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนในการบริหารจัดการแต่ยังทำให้สภาพแวดล้อม IT เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น

เพื่อให้การนำ Multi Cloud มาใช้ในองค์กรประสบความสำเร็จ การวางแผนและการจัดตั้งทีมงานเฉพาะทางที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่จำเป็น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Open Source ยังเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเป็นมืออาชีพของสภาพแวดล้อม Cloud ในองค์กร ทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านไอทีในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี การเลือกใช้ multi-cloud ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งด้านความต้องการขององค์กร, ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย, และการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ การมีการวางแผนและเตรียมทีมงานเฉพาะทางจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้การนำ multi-cloud เข้าสู่องค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นและส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุดให้กับธุรกิจ

Multi-cloud ปลดล็อคศักยภาพของระบบขั้นสุด 

ดร. อำนาจ  ประสิทธิ์ดำรง

ในยุคสังคมที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาและความต้องการเฉพาะของกลุ่มวัยชรากลายเป็นหัวข้อที่สำคัญในหลายประเทศ การเปลี่ยนโฉมเป็น "สังคมผู้สูงอายุ" ย้ำความจำเป็นในการดูแลและสนับสนุนด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต โดยเทคโนโลยีกลายเป็นคำตอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเล่นบทบาทสำคัญในการช่วยการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคภัยอันตรายที่เกิดจากอายุ การติดต่อกับครอบครัว หรือการควบคุมสุขภาพของตนเอง อาทิ แพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่เน้นการวิเคราะห์สุขภาพอย่างเฉพาะบุคคลด้วยข้อมูล ประวัติสุขภาพและพฤติกรรมการบริโภค ผ่านสมาร์ทวอทช์ ที่ไม่เพียงแต่ช่วยในการตรวจสอบชีพจร เตือนเวลาทานยา ตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือด แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจและลดความกังวลของครอบครัว ในขณะที่ยังทำให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้มากขึ้น

กลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถรับประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมาย ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพ แต่ยังเชื่อมต่อการสื่อสารและยกระดับคุณภาพชีวิต ให้สามารถสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น การมีการเรียนรู้และสัมผัสเทคโนโลยียังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทำให้การอยู่ในสังคมแม้ในวัยชรายังคงมีความสุขและประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างเต็มที่

Aging Society เทคโนโลยีเพื่อคนที่เรารัก

จิรายุส นิ่มแสง

การบูรณาการกลยุทธ์ความปลอดภัยเข้ากับกระบวนการพัฒนาและดำเนินงานซอฟต์แวร์ หรือ DevSecOps เป็นแนวทางที่ปฏิบัติตามหลักการ "ความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้น" ที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์มีคุณภาพสูงและปลอดภัยมากขึ้น ตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการความรวดเร็วและปลอดภัย การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คอนเทนเนอร์, แพลตฟอร์มเปิด, และเครื่องมืออัตโนมัติเข้ามาใช้ ได้ส่งเสริมให้กระบวนการ DevSecOps มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้การส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำได้เร็วขึ้น ตอบรับความต้องการของตลาดที่ต้องการความรวดเร็วและความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน

Cloud Native Application Protection Platform (CNAP) เป็นกรอบการทำงานที่เน้นการรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันบนคลาวด์ตั้งแต่ต้นจนจบ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Application Security ที่ครอบคลุมการตรวจสอบโค้ดและการกำหนดค่า, Configuration Security ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดค่าภายในแอปพลิเคชัน และ Runtime Protection ที่ป้องกันภัยคุกคามระหว่างการทำงานจริงของแอปพลิเคชัน วิธีการเริ่มต้นใช้งาน CNAP คือการศึกษากรอบการทำงาน, ประเมินความพร้อมขององค์กร, กำหนดแผนการดำเนินการ, ดำเนินการตามแผน และประเมินผลเพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ในอนาคต Gartner มองว่า CNAP จะพัฒนาไปสู่ระบบที่มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญและรับผิดชอบในการดูแลระบบความปลอดภัย นี่จะช่วยลดภาระด้านความปลอดภัยให้กับองค์กร และช่วยให้องค์กรสามารถโฟกัสไปที่การพัฒนาและนวัตกรรม ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและบริการของตนได้เป็นอย่างดี

DevSecOps Demystified เมื่อความปลอดภัย ไม่ใช่ทางเลือก

ณัฐดนัย เวียงวัง

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกสิ่งที่ตนเองรักและมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด

คุณนัท ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ บริษัท ด๊อปปิโอเทค จำกัด เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ คุณนัทเริ่มต้นธุรกิจด้วยความชอบและความถนัดในการทดสอบซอฟต์แวร์ จากนั้นจึงพัฒนาธุรกิจไปสู่การเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์เทสซิ่งอีโคซิสเท็มอย่างเต็มรูปแบบ

โดยคุณนัทได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ว่า ควรเลือกทำสิ่งที่ตนเองชอบและถนัด รวมทั้งศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ นอกจากนี้ ควรสร้างทีมงานที่ดีและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ตนเองทำให้ดีที่สุด คุณนัทมีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจของ บริษัท ด๊อปปิโอเทค จำกัด ไปสู่การเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์เทสซิ่งอีโคซิสเท็ม โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถทดสอบซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย

บริษัท ด๊อปปิโอเทค จำกัด เป็นตัวอย่างที่ดีของบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ คุณนัทเชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด สุดท้ายนี้ คุณนัทฝากข้อคิดให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ว่า “ถ้าทำอะไรแล้วทำให้ได้ดี สุดท้ายเดี๋ยวมันไปต่อได้เอง” ดังนั้นจึงควรมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ตนเองทำให้ดีที่สุด แล้วความสำเร็จจะตามมาเอง

จากพนักงานออฟฟิศสู่เจ้าของกิจการ 150 ล้านใน 3 ปี 

ณพิชญ์ กรานต์เจริญ

Salesforce ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์ม CRM ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการลูกค้าในด้านการขาย, บริการ, และการตลาด แต่ยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI, workflows และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ในแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น เพื่อปรับปรุงประสบการณ์สำหรับลูกค้าในยุคดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าด้วยเซลล์ฟอร์ซช่วยให้ธุรกิจขยายโอกาส, เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความภักดีต่อแบรนด์อย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งความสามารถของเซลล์ฟอร์ซคือ "low code" ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบสนองตามความต้องการของธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมากนัก ซึ่งทำให้การขยายธุรกิจ การปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า หรือแม้กระทั่งการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานภายในองค์กร สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

การผสานความสามารถของเซลล์ฟอร์ซกับพลังของโลโค้ดสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็วช่วยให้ธุรกิจปรับตัวและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล ซึ่งไม่เฉพาะจะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่ยังสร้างโอกาสในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและตลาดแบบทันท่วงที ทำให้ธุรกิจเติบโตและมีความแข็งแกร่งในเวทีโลกาภิวัตน์

Salesforce and Low Code คู่หูใหม่กับการเติบโตของธุรกิจ

พงษ์ศักดิ์ ฤทธิ์พิทักษ์พงศ์

แนวคิดของ Large Scale Scrum (LeSS) เน้นให้องค์กรรับรู้ความสำคัญของ PO (Product Owner) ที่มีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขตสำหรับผลิตภัณฑ์ มุ่งหวังที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เป็นที่ยอมรับว่าการแบ่งย่อยผลิตภัณฑ์เป็นหน่วยงานเล็กๆ ช่วยให้ทีมงานได้ความยืดหยุ่น และสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สามารถสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้าได้อย่างไม่ขาดตอน

ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่ PO ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคุณค่าไม่ได้มีแค่ในด้านการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการขยายฐานผู้ใช้, การสร้างยั่งยืนกับลูกค้าปัจจุบัน, การสร้างรายได้เพิ่มเติม, และการควบคุมต้นทุนให้เหมาะสม ดังนั้น การสื่อสารคุณค่าที่ชัดเจนกับทีมงานจึงเป็นขั้นตอนที่ PO ต้องประสานเพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันด้วยวิสัยทัศน์เดียวกัน

ท้ายที่สุด ประสิทธิภาพของทีมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ ด้วยบทบาทของ PO ที่เป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงและประสานงานระหว่างทีมต่างๆ ภายในองค์กร จึงควรสร้างบรรยากาศที่บูรณาการ และสนับสนุนเพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างคุณค่าและประสิทธิภาพที่สูงสุดให้กับผลิตภัณฑ์ได้

LeSS is More มุมมองของ PO กับ การปลดล็อคศักยภาพของทีม

อนัญญา สหัสสะรังษี

การเริ่มต้นธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางแผนและศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ คุณพลอย แนะเคล็ดลับสำคัญในการหาไอเดียธุรกิจจากปัญหาในชีวิตประจำวัน, การสังเกตคนรอบตัว, และการติดตามเทรนด์ปัจจุบัน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ไอเดีย, ตรวจสอบความเป็นไปได้ และเลือกสิ่งที่เหมาะกับทักษะและความชอบ เพื่อนำไปสู่ธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน 

โดยในยุคดิจิทัลนี้ คุณพลอย ย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเวลาและการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีในการสนับสนุนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Google Calendar หรือ Google Tasks เพื่อช่วยในการวางแผนและติดตามความก้าวหน้า อย่างไรก็ตาม เครื่องมือเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การมีทักษะที่เหมาะสม, ความรู้ และทีมงานที่เข้ากันได้ดีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ คุณพลอย หวังว่าผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจจะไม่หยุดที่ความรู้จากแหล่งเดียว แต่ยังค้นหาแหล่งความรู้อื่นๆเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกๆด้าน

สุดท้าย คุณพลอย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เลือกมุ่งมั่นกับธุรกิจเดียวเพื่อให้ความสนใจเต็มที่ และต้องรู้จักบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ หากมีข้อสงสัยหรือความไม่เข้าใจ ควรค้นหาความรู้และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การเข้าใจตัวเองจะช่วยในการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับธุรกิจ และไม่ควรกลัวการล้มเหลว แต่ควรเห็นมันเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาต่อไป

Zero to One กับ ปั้นฝันให้เป็นดาว 

ไชยพงศ์​ ลาภเลี้ยงตระกูล

การใช้แนวคิด Data-Driven หมายถึงการนำข้อมูลที่เรามีมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการตลาดหรือ Data-Driven Marketing ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการตลาดให้ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิผลมากขึ้น

ทำไมเราต้องสนใจ Data-Driven และ Automation?

ในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานที่มีประสิทธิภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรนั้นจำเป็นต้องมีการใช้ Automation และ Data-Driven เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ นอกจากจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้มีการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

การนำ Data-Driven มาใช้ในเชิงกลยุทธ์กับการตลาด

การเปลี่ยนจากกระบวนการ Manual ไปสู่ Automation นั้นจะช่วยให้:

การนำ Data-Driven มาใช้กับ IT

สำหรับองค์กรที่มีการใช้งานเซิร์ฟเวอร์และระบบ IT ขนาดใหญ่ การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้สามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถ:

การมองไปในอนาคต

ในอนาคต เมื่อเราเข้ามาในออฟฟิศในตอนเช้า เราสามารถใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตอบคำถามที่เราต้องการทราบ แทนที่จะต้องตรวจสอบเองทุกจุด สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีระบบ CDP (Customer Data Platform) ที่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลและดำเนินการตามคำสั่งได้

บทบาทของผู้บริหารในอนาคต

แม้ว่า AI จะเข้ามาช่วยในงานเบื้องต้นจากข้อมูลที่มีอยู่ แต่ในที่สุดเรายังคงต้องเป็นผู้ที่ตรวจสอบและให้คำแนะนำสำคัญ การใช้ Automation และ Data-Driven จะทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นงานที่มีความสำคัญและสร้างมูลค่าให้กับองค์กร

การนำ Data มาใช้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Data-Driven & Automation ใช้ข้อมูลให้ถึงเป้าหมาย

กุลวัฒน์ วงศาโรจน์

ในตอนนี้ เราจะพูดคุยกับ Agile Coach ผู้มากประสบการณ์ ที่จะมาแบ่งปันเรื่องราวตลอดการทำงานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การค้นพบตัวเองในความชื่นชอบสายงานคอมพิวเตอร์ บทเรียนจากความล้มเหลวในการทำธุรกิจเกี่ยวกับ product จนไปถึงบทบาทใหม่ในการเป็นโค้ชให้ผู้อื่นได้ค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง เราจะได้เรียนรู้ถึงเบื้องหลังความท้าทายในการนำ Agile มาปรับใช้อย่างได้ผล ตั้งแต่ศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสารกับผู้บริหาร ไปจนถึงเคล็ดลับในการปรับ Mindset ให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

ถ้าคุณกำลังตามหาแนวทางการทำงานและการใช้ชีวิตที่ลงตัว เรื่องราวในตอนนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้คุณกล้าก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อค้นหาเส้นทางที่ใช่ของตัวเอง

ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ เราได้พูดคุยกับ Agile Coach ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์อันหลากหลายที่เขาบ่มเพาะมานานกว่า 20 ปี พี่ปอม กุลวัฒน์ วงศาโรจน์ 

เส้นทางการทำงานของพี่ปอมเริ่มต้นจากความหลงใหลด้านเทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็ก ผ่านการทำงานในสายงานคอมพิวเตอร์ สู่การเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ต้องก้าวผ่านความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับทีมต่างชาติที่สื่อสารไม่ตรงกัน การอยู่ในประสบการณ์ Layoff หลายครั้ง ไปจนถึงการตัดสินใจมาเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงที่แท้จริงให้ชีวิต

"ผมเคยล้มเหลวจากการพยายามสร้าง Product ที่ดีที่สุด เราทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อมัน แต่ด้วยการเป็นกลุ่มคนเทคโนโลยีที่ไม่ถนัดเรื่องขายของ ธุรกิจนั้นจึงไปต่อไม่ได้ในที่สุด" เขาเล่าถึงบทเรียนสำคัญที่ทำให้ต้องเปลี่ยนมุมมองในการทำธุรกิจใหม่ทั้งหมด

แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบเรียนรู้และพร้อมปรับตัวเสมอ เขาจึงนำประสบการณ์ตรงเหล่านั้นมาต่อยอดทำสิ่งที่ตัวเองถนัดและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง นั่นคือการเป็นโค้ชให้ผู้อื่นได้ค้นหาวิธีการทำงานที่เหมาะสมกับตนเอง ภายใต้แนวคิด Agile ที่มุ่งเน้นการสื่อสารกับ user ผ่านผลงานที่ทีมสร้าง

"Agile ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นการปรับใช้อย่างยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับแต่ละบริบท เราต้องกล้าลองผิดลองถูก กล้าเสาะหา Best Practice ของตัวเอง แล้วค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้น"

เขายังเล่าอีกว่า ความแตกต่างของมุมมองระหว่างผู้บริหารกับพนักงานเป็นความท้าทายสำคัญในการทำ Coaching "บางครั้งสิ่งที่พนักงานมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่ผู้บริหารกลับมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่แค่ต้องปรับปรุง การจะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันได้ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสารอย่างแยบยล"

เรื่องราวและข้อคิดที่เขาแบ่งปันให้ฟังนั้นช่างเต็มไปด้วยคุณค่า ตั้งแต่การกล้าก้าวออกจาก Comfort Zone การไม่ยึดติดกับวิธีการเดียว ไปจนถึงการเลือกจับทีละเรื่อง เดินไปข้างหน้าทีละก้าว แม้จะดูเชื่องช้าแต่ยังดีกว่าอยู่กับที่

บทเรียนจากเส้นทางอันท้าทายของเขานี้ น่าจะช่วยจุดประกายไอเดียให้ใครหลายคนได้ลุกขึ้นมาค้นหาเส้นทางที่ใช่ของตัวเองบ้าง เพื่อที่เราจะได้ทำในสิ่งที่รัก ตอบโจทย์ที่ตัวเราเองมี และสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนอย่างแท้จริง

สอนคนให้ทำเรื่องที่ใช่ ค้นหา ลองทำ เติบโต

ชลธิชา แสงพันธุ์

คำว่าเก็บข้อมูลลูกค้าให้เยอะที่สุด มากเท่าไหร่ยิ่งดี อาจจะไม่ดีเสมอไปก็ได้ เรามาดูรูปแบบข้อคิดที่ได้จากการทำงานในด้านนี้ ที่คนทั่วไปไม่เข้าใจกัน

1. อยากได้ข้อมูลแบบฟรีๆ ไม่ยอมเสียเงิน

บริการฟรีอย่างเช่น Google Map ผู้ใช้ยินยอมที่จะให้ข้อมูลเพื่อแลกกับบริการที่เขาต้องการ และข้อมูลนั้นก็ถูกนำไปใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ตัวอื่นที่นำมาใช้ทำเงินกับเราได้ต่อ แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้นั้น ยินดีที่จะให้ข้อมูล ถ้าสิ่งที่เค้าได้กลับมามีค่าพอ หลายๆ ธุรกิจมุ่งแต่จะเก็บข้อมูลอย่างเดียวโดยที่ไม่ยอมให้อะไรกลับมากับผู้ใช้เลย นี่เป็นข้อแรกที่อย่างให้ปรับ Mindset ในเรื่องการเก็บข้อมูลนี้

2. มีข้อมูลลูกค้าแล้วแต่ไม่ยอมใช้

อย่าลืมว่าการมีข้อมูลนั้น มันจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการรวมรวม ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ ดังนั้นถ้าเก็บมาแล้วต้องหาทางนำมาใช้ประโยชน์ให้ได้ 

3. ไม่เน้นเก็บข้อมูลเอง เน้นซื้อข้อมูลเอา

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การทำงานกับข้อมูลในรูปแบบนี้ ไม่เคยมีตัวไหนที่ตอบ ROI ของบริษัทได้เลย

4. ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

Brand ทั่วไปมักจะเน้นการตลาดไปที่การทำให้ ถูกคน คือเจอคนที่ใช้สินค้าหรือบริการอยู่แล้ว แต่แท้จริงนั้น การทำให้ถูกเวลานั้น สำคัญที่สุด การเข้าไปนำเสนอบริการในจังหวะที่ลูกค้ากำลังต้องการพอดี จะทำให้สามารถปิดการขายได้ ถ้าเป็นสินค้าที่ต้องมีการซื้อซ้ำ ต้องทำให้ลูกค้าไม่มีโอกาสไปคิดถึง brand อื่นได้เลย การนำเสนอสินค้าใจจังหวะที่ลูกค้ากำลังจะซื้อมาเพื่อทดแทน จะมีโอกาสสูงมากที่จะปิดการขายได้

Data-Driven & Automation ใช้ข้อมูลให้ถึงเป้าหมาย

ไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล

สอนคนให้ทำเรื่องที่ใช่ ค้นหา ลองทำ เติบโต

กุลวัฒน์ วงศาโรจน์

เคล็ด(ไม่)ลับการตลาด และเรื่องที่คุณต้องรู้

ชลธิชา แสงพันธุ์

More Featured Posts.

CUBIC X พลิกวงการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย AR

กิตติพงศ์ เตชะพานิชกุล

เทคนิคมัดใจลูกค้า ใช้ข้อมูลอย่างไร ถึงจะขายได้ขายดี

อชิรวิชญ์ คงรัสโร

Innovation & Tech

ลงทุนแบบก้าวกระโดด AI ช่วยได้

สูตรลับการลงทุน ทำแบบนี้ไม่มีจน

รถไฟฟ้าพารวย - สูตรลับการลงทุน 2

Data-Driven & Automation ใช้ข้อมูลให้ถึงเป้าหมาย

ไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล

สอนคนให้ทำเรื่องที่ใช่ ค้นหา ลองทำ เติบโต

กุลวัฒน์ วงศาโรจน์

เคล็ด(ไม่)ลับการตลาด และเรื่องที่คุณต้องรู้

ชลธิชา แสงพันธุ์

AI-Deate: ปฏิวัติวงการครีเอทีฟด้วย Generative AI

ตฤณ นิลกรณ์

ทรัพย์สินทางปัญญา หนุนอุตสาหกรรมเกมไทยรุ่งไม่มีร่วงในยุค AI?

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ และ เนนิน อนันต์บัญชาชัย

ใช้ AI ให้ปัง ต้องจัดการข้อมูลให้เป็น

ดร. สันติสุข ลิ้มปิติเจริญโชติ และ ดร. นิธิพงศ์ บุญหลง

Investment

Security

Leadership

Software Development

Popular Posts

Explainable AI ที่มาที่ไป AI ตอบได้

CPaaS พลิกโฉมการสื่อสารยุคดิจิทัล

Infrastructure Automation ทำงาน Cloud ให้เป็นเรื่องง่าย

Stay In Touch

Categories

Author

About

Follow Us

More Featured Posts.

Innovation & Tech

Investment

Security

Leadership

Software Development

Data & AI

Marketing

Investment

Security

Leadership

Software Development

Popular Posts

Stay In Touch

Categories

Author

About

Follow Us