การใช้แนวคิด Data-Driven หมายถึงการนำข้อมูลที่เรามีมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการตลาดหรือ Data-Driven Marketing ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการตลาดให้ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิผลมากขึ้น

ทำไมเราต้องสนใจ Data-Driven และ Automation?

ในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานที่มีประสิทธิภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรนั้นจำเป็นต้องมีการใช้ Automation และ Data-Driven เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ นอกจากจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้มีการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

การนำ Data-Driven มาใช้ในเชิงกลยุทธ์กับการตลาด

  • การจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Lead Capture) - การใช้ข้อมูลเพื่อดึงดูดและระบุลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพ
  • การดูแลลูกค้าอย่างยั่งยืน (Lead Nurture) - การใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนกับลูกค้า
  • การแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Recommendation) - การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
  • การพยากรณ์อัตราการสูญเสียลูกค้า (Churn Rate) - การตรวจสอบและคาดการณ์การสูญเสียลูกค้าเพื่อให้สามารถดำเนินการป้องกันได้ทันเวลา
  • การเป็นผู้ช่วยที่ให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา (Assistant) - การใช้ AI และ Automation ในการให้คำปรึกษาและตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนจากกระบวนการ Manual ไปสู่ Automation นั้นจะช่วยให้:

  • การสื่อสารกับลูกค้าเป้าหมายเป็นไปอย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพ
  • ส่ง Content ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและวัดผลว่ามีโอกาสในการเปลี่ยนเป็นลูกค้าจริงหรือไม่
  • วิเคราะห์และนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากข้อมูลที่มี
  • เตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้า

การนำ Data-Driven มาใช้กับ IT

สำหรับองค์กรที่มีการใช้งานเซิร์ฟเวอร์และระบบ IT ขนาดใหญ่ การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้สามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถ:

  • ระบุเซิร์ฟเวอร์ที่มีการใช้งบประมาณสูงแต่มีการใช้งานต่ำ และปรับปรุงการใช้ทรัพยากรได้
  • มีระบบเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเซิร์ฟเวอร์หรือระบบ IT เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันเวลา

การมองไปในอนาคต

ในอนาคต เมื่อเราเข้ามาในออฟฟิศในตอนเช้า เราสามารถใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตอบคำถามที่เราต้องการทราบ แทนที่จะต้องตรวจสอบเองทุกจุด สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีระบบ CDP (Customer Data Platform) ที่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลและดำเนินการตามคำสั่งได้

บทบาทของผู้บริหารในอนาคต

แม้ว่า AI จะเข้ามาช่วยในงานเบื้องต้นจากข้อมูลที่มีอยู่ แต่ในที่สุดเรายังคงต้องเป็นผู้ที่ตรวจสอบและให้คำแนะนำสำคัญ การใช้ Automation และ Data-Driven จะทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นงานที่มีความสำคัญและสร้างมูลค่าให้กับองค์กร

การนำ Data มาใช้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไชยพงศ์​ ลาภเลี้ยงตระกูล

ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร บริษัท ทรีดีเอส อินเตอร์แอคทีฟ (2010 - ปัจจุบัน) เป็นเอเจนซี่การตลาดดิจิทัล ที่นำเสนอ โซลูชั่นทางด้านการเก็บข้อมูลลูกค้า (Customer Data Platform) และแพลทฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์​ แพม เรียล ซีดีพี (PAM Real CDP) https://pams.ai และเป็นผู้แต่งหนังสือ การตลาดอัตโนมัติ (Automation Marketing) รองนายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (2023 - ปัจจุบัน)